บางครั้งการที่เรา “คุยกันทุกวัน” กับคนที่เราสนิท หรือแม้แต่กับคนรัก แต่กลับรู้สึกว่าใจเรายิ่งห่างกันมากขึ้น มันเป็นเรื่องที่หลายคนประสบพบเจอ และทำให้เกิดคำถามในใจว่า “ทำไมเรายิ่งใกล้กัน แต่กลับรู้สึกไกลจัง”
ความรู้สึกแบบนี้ไม่ได้แปลว่า “ไม่รัก” หรือ “ไม่สนใจ” แต่บางทีอาจเกิดจากหลายเหตุผลที่เราอาจไม่ทันสังเกต

การสื่อสารแค่ผิวเผิน
ในยุคที่เราแชตกันได้ตลอดเวลา บางครั้งบทสนทนาอาจกลายเป็นแค่การทักทายทั่วไป คำตอบสั้น ๆ หรือพูดเรื่องเดิม ๆ ซ้ำ ๆ โดยที่ไม่ได้ลงลึก หรือแบ่งปันความรู้สึกจริง ๆ สิ่งนี้ทำให้ความสัมพันธ์ดู “ถ่ายเท” แต่ไม่ได้เติมเต็ม
ไม่มีเวลาคุณภาพร่วมกันจริง ๆ
แม้ว่าจะคุยทุกวัน แต่ถ้าไม่ได้ใช้เวลา “อยู่ด้วยกัน” หรือพูดคุยเรื่องที่ลึกซึ้งกว่านั้น ความรู้สึกผูกพันก็อาจลดลงได้ เหมือนดูโทรทัศน์ไปพร้อมกันแต่ไม่ได้คุยกันถึงสิ่งที่ดูจริง ๆ
ความคาดหวังที่ไม่ตรงกัน
บางทีเราคาดหวังว่าอีกฝ่ายจะตอบกลับแบบละเอียด หรือแสดงความรู้สึกมากกว่านี้ แต่ฝ่ายนั้นอาจมีวิธีสื่อสารหรือแสดงความรักที่ต่างออกไป ความไม่เข้าใจกันตรงนี้จึงทำให้รู้สึก “ห่าง” ทั้ง ๆ ที่ยังคุยกันอยู่
ความเหนื่อยล้าทางอารมณ์
ถ้าวันนั้นมีเรื่องเครียด หรือกำลังหมดพลังใจ บทสนทนาอาจกลายเป็นภาระหรือเรื่องที่ทำให้รู้สึกหนักใจแทนที่จะเป็นที่พักใจ ทำให้เรารู้สึกอยากถอยออกมา แม้จะยังอยากคุยแต่ก็รู้สึกไกลกันขึ้นไปอีก

วิธีปรับความรู้สึกไม่ให้ห่างเกินไป
- ลองพูดคุยเรื่องลึกซึ้ง หรือแชร์ความรู้สึกจริง ๆ บ้าง ไม่ใช่แค่ทักทายผ่าน ๆ
- หาเวลาทำกิจกรรมร่วมกันจริง ๆ แม้จะเป็นแค่ดูหนังพร้อมกันผ่านวิดีโอคอล
- พูดถึงความคาดหวังและความรู้สึกของตัวเองอย่างตรงไปตรงมา
- ให้เวลากับตัวเองและอีกฝ่ายพักผ่อนทางอารมณ์บ้าง ไม่ต้องคุยทุกวันถ้ามันรู้สึกหนักเกินไป
การคุยกันทุกวันไม่ใช่คำตอบเดียวของความใกล้ชิด บางทีการเติมเต็มด้วยความจริงใจและเวลาคุณภาพอาจสำคัญกว่า แค่เปิดใจและฟังกันจริง ๆ ความสัมพันธ์ก็กลับมาชิดใกล้ขึ้นได้ค่ะ